เปรียบเทียบความงามของตัวละครหญิงใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า
ในเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้ามีสาวงามอยู่มากมาย แต่ละนางก็งามแตกต่างกันไป ในบทความนี้จะรวมรวมบทบรรยายความงามของตัวละครหญิงในเรื่องมาให้เปรียบเทียบกัน
จงหลิง (เจ็งเล้ง)
- ส่วมใส่อาภรณ์เขียวสดใสใบหน้ายิ้มแย้มพริ้งพราย
- เห็นจันทราเพิ่งลอยพ้นขอบฟ้า ส่องต้องใบหน้าสีขาวอมแดงของนาง ยิ่งขับเน้นถึงความงามสะคราญ
- ตวนอื้อค่อยฟื้นคืนสติมาอย่างแช่มช้า รู้สึกกลางหลังอิงแอบกับความนุ่มนิ่ม จมูกสูดได้กลิ่นหอมรวยริน พอลืมตาขึ้นเห็นเจ็งเล้งเบิกตากลมกระจ่างทั้งคู่มองมาอย่างร้อนรุ่ม
- ตวนอื้อเห็นนางยืนอยู่เบื้องหน้าของตัว ห่างกันเพียงเชียะเศษ พวยพุ่งลมหายใจหอมกรุ่นดุจกล้วยไม้ ยิ่งพิศยิ่งงดงามซึ้งใจ ยามกระทันหันไม่อาจหักใจจากไป
- นางใบหน้ากลม ข้างแก้มมีรอยลักยิ้มเล็กๆ กลับเป็นเจ็งเล้ง
- เจ็งเล้งซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง ใบหน้าพลอยแปดเปื้อนเถ้าฝุ่น ดวงตาทั้งคู่กลับดำขลับประดุจนิล สุกใสราวน้ำค้างกลางหาว
หวังอวี่เยี่ยน (เฮ้งงื่อเอียง)
- เสียงทอดถอนหายใจนี้น่าฟังถึงเพียงนี้ ในโลกไหนเลยมีสุ้มเสียงเช่นนี้ได้ ต้วนอื้อได้ยินเสียงถอนหายใจก็สะท้านหวั่นไหวแล้ว รอจนได้ยินคำพูดสองประโยคนี้ ถึงกับเลือดลมระอุพลุ่งพล่าน ในใจบังกิดความขื่นขมอิจฉาเลื่อมใสอย่างบอกไม่ถูก
- รู้สึกว่าข้างกายสตรีนางนี้คล้ายปกคลุมด้วยหมอกควันบางเบา มิใช่คนในโลกีวิสัย
- หญิงสาวเบื้องหน้ามีข้อแตกต่างกับรูปปั้นหยกในถ้ำศิลาอยู่บ้าง รูปปั้นหยกเฉิดฉายพริ้งพรายแฝงท่วงท่าคร่าขวัญสะกดวิญญาณ หญิงสาวเบื้องหน้ากลับเรียบร้อยสำรวม แฝงความไร้เดียงสา
- ครั้งกระโน้นยอดกวีลี้แป๊ะใช้ดอกรักเร่เปรียบเปรยความงามของพระสนมเอี้ยกุ้ยฮุย หากว่าท่านมีวาสนาพบเห็นเสียวเจี้ยะ จะทราบว่าไม้ดอกแม้งดงามแต่ปราศจากเจ้าแง่แสนงอน แราศจากถ้อยคำอ่อนโยน ปราศจากรอยยิ้มปิติ ปราศจากความหม่นหมองศี ไม่อาจทัดเทียมเปรียบได้จริงๆ
- ต้วนอื้อเห็นนางใช้นิ้วชี้ข้างซ้ายที่เรียวงาม ชี้ไปบนหลังมือข้างขวาที่ขาวละเอียดอ่อน รู้สึกลำคอแห้งผาก สมองหมุนมึนงง
มู่หว่านชิง (บักอ้วงเช็ง)
- ยามนี้ตวนอื้อเพิ่งเผชิญหน้ากับนางโดยตรง เห็นบนใบหน้านางคลุมผ้าสีดำผืนหนึ่ง เพียงเจาะช่องนัยน์ตาสองรู ตากระจ่างจ้าทั้งคู่ดำขลับดุจนิลพวยพุ่งมาที่ตน
- อาทิตย์ลอยอยู่กลางฟ้า แสงแดดอันเจิดจ้าพอดีส่องต้องหน้าซีกล่างของนาง ตวนอื้อเห็นปลายคางของนาง เรียวแหลม มีผิวละเอียดอ่อน เรียบลื่นเป็นประกายเช่นเดียวกับแผ่นหลัง ไม่มีรอยฝีดาษแม้สักครึ่งจุด ปากน้อยๆ รูปกระจับสวยงาม ริมฝีปากบางเบาฟันซี่เล็กๆ ทั้งสองแถวคล้ายหยกละเอียด อดหวั่นไหวใจมิได้
- ขณะครุ่นคิด น้ำลำธารไหลลงจากร่องนิ้วกระเซ็นใส่ ครึ่งซีกหน้าของบักอ้วงเช็งเต็มไปด้วยหยดน้ำ คล้ายแผ่นหยกรองรับไข่มุก เกล็ดน้ำค้างบนกลีบบุปผาก็มิปาน
- ตวนอื้อสะท้านทั้งร่าง ที่ปรากฏเบื่องหน้าคล้ายจันทราทอแสงนวลใย ดั่งพฤกษาดอกไม้สุมหิมะ ใบหน้าสวยซึ้งผุดผาด เพียงแค่ซีดขาวเกินไปไม่มีสีเลือดแม่แต่น้อย คาดว่าเป็นเพราะนางคลุมหน้าอยู่ชั่วนาตาปี ริมฝีปากบางเบาทั้งสองข้างก็มีสีเลือดอ่อนจาง ตวนอื้อรู้สึกว่านางอ่อนหวานนุ่มนวลชดช้อยชวนเวทนา ไหนเลยเป็นนางมารที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา
- ตวนอื้อยื่นมือโอบเอวอ้อนแอ้นของนาง รู้สึกลื่นนุ่มราวไร้กระดูกต้องหวั่นไหวใจอีกครา ก้มศีรษะจุ่มพิตริมฝีปากของนาง ในชีวิตของเขานี่เป็นครั้งแรกที่จุมพิตอิสตรี ไม่กล้าจุมพิตนานไป รีบถอนศีรษะมาด้านหลังเหม่อมองใบหน้างามซึ้งของนางอย่างซึมเซา "น่าเสียดายข้าพเจ้าไม่อาจมีชีวิตยืนยาว ใบหน้าที่งดงามเช่นนี้มีโอกาสได้เห็นไม่นานนัก" บักอ้วงเช็งพอถูกจุมพิตคราหนึ่ง หัวใจก็เต้นตูมตาม สองข้างแก้มแดงซ่านด้วยความเอียงอาย ทำให้ใบหน้าที่ไร้สีเลือด เพิ่มความเฉิดฉันอีกสามส่วน
- เห็นมือเรียวงามของหญิงสาวนางนั้น ผิวนวลเนียนประดุจหยก ใต้ระลอกเขียวขับสะท้อนคล้ายโปร่งใสก็ปาน
- ชุยแป๊ะจั้วกับก่วยงังจือแม้เผชิญศัตรูเข้มแข็งยังอดเหลียวมองนางแวบหนึ่งมิได้
- สุ้มเสียงไพเราะอ่อนหวาน สร้างความปลอดโปร่งแก่ผู้รับฟัง หญิงสาวนางนี้มีอายุสิบหกสิบเจ็ดปี สีหน้าอ่อนโยนนุ่มนวล รูปกายสดใสงดงาม
- เห็นอาเพ็กเม้มปากหัวร่อ ชะม้ายมองมาที่ตัวเอง ผิวพรรณของนางขาวราวกระจับที่สดใหม่ มุมปากมีไฝดำเม็ดเล็กๆ ยิ่งเพิ่มความคมขำกว่าเดิม
- ตวนอื้อครุ่งคิดขึ้น คิดไม่ถึงสตรีแดนกังหนำ กลับงดงามถึงเพียงนี้ ซึ่งความจริงหญิงสาวชุดเขียวนี้ ไม่ได้งดงามถึงที่สุด ยังสู้บักอ้วงเช็งไม่ได้ แต่รูปโฉมโนมพรรณแปดส่วน บวกกับความอ่อนโยนนุ่มนวลสองส่วน ทำให้ไม่เป็นรองหญิงงามสิบส่วน
- อาเพ็กสวมเสื้อผ้าสีเขียวอ่อน ยืนรอรับแขกอยู่ ที่ข้างกายยืนไว้ด้วยหญิงสาวชุดสีชมพูนางหนึ่ง อยู่ในวัยสิบหกสิบเจ็ดปีเช่นกัน คล้ายยิ้มคล้ายไม่เชิงยิ้ม สีหน้าแฝงแววซุกซน อาเพ็กมีใบหน้ารูปแตง งามอย่างสดใส หญิงสาวนางนี้มีใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลอกกลิ้งประเปรียวเป็นเสนห์ความงามอีกแบบหนึ่ง
- ตวนอื้อสั่นศีรษะ กล่าวว่า "ล้วนมิใช่ ข้าพเจ้าเพียงเห็นว่าเทพยดาฟ้าดินมีความสามารถนัก กลับเนรมิตหญิงงามเช่นอาเพ็กเจ้เจ๊ รวมความงามสดใสของแดนกังหนำอยู่ในร่างเดียวนับว่าหมดจดมากแล้ว มิคาดยังสามารถสร้างสรรค์อาจูเจ้เจ๊อีกคนหนึ่งทั้งสองมีรูปโฉมผิดแผก ต่างความน่าดู ทำให้ข้าพเจ้าคิดชมเชยสักหลายคำ จนใจที่ไม่สามารถกล่าวจากปากได้"
- อาจูความจริงไม่ชมชอบดื่มสุรา แต่เพื่อเพิ่มรสชาติให้แก่เซียวฮง จึงฝืนใจดื่มเป็นเพื่อนหลายจอก ทำให้ใบหน้าแดงซ่าน เพิ่มความวาบหวามกว่าเดิม
คังเหมี่ยน, หม่าฮูหยิน (เบ๊ฮูหยิน)
- ยามนี้อาทิตย์สนธยาใกล้ลับฟ้าแสงสีเรื่อเหลืองส่องต้องใบหน้านาง เซียวฮงค่อยดูออกว่าหางตานางมีรอยย่นเล็กน้อยอยู่ในวัยสามสิบห้าสามสิบหกปี ใบหน้าไม่พอกแป้งแต้มชาด ผิวพรรณขาวนวลเนียน ความงามคล้ายไม่ด้อยกว่าอาจู
- เซียวฮงรู้สึกว่าสุ้มเสียงนางอ่อนนุ่มพัวพัน พอกระทบโสตชวนวาบหวามพรากวิญญาณหลุดลอยจากร่าง แต่นางคล้ายกล่าววาจาจากใจไม่ได้มีจริตมารยา ในชีวิตของเขาผ่านพบผู้คนมาไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าในโลกมีสตรีที่ทรงเสนห์ถึงเพียงนี้ อดหน้าแดงวูบมิได้ เขาเคยพบเห็นชู้รักของตวนเจี่ยซุ้งอีกสองนาง ฉิ้งอั้งมี้โอ่อ่าผ่าเผย ง้วนแชเต็กสดใสร่าเริง เบ๊ฮูหยินนี้กลับนุ่มนวลถึงขีดสุด หยาดเยิ้มถึงที่สุด
- ไม่ว่านักสู้ผู้กล้าใด ล้วนมองดูเราตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าคนที่สูงด้วยวัย ก็ลอบแอบดูเรา มีแต่ท่าน...เฮอะ บรุษนับพันในงานชุมนุมร้อยบุปผา มีแต่ท่านที่ไม่มองดูเรา งานชุมนุมร้อยบุปผาที่เมืองลกเอี้ยง ในลูกผู้ชายถือท่านอยู่อันดับหนึ่ง ท่านกลับไม่แยแสเหลือบแลเรา ต่อให้เราถือดีในรูปโฉมกว่านี้ จะมีประโยชน์ใด
- นางสวมเสื้อสีม่วง มีอายุเพียงสิบห้าสิบหกปียังเยาว์วัยกว่าอาจูสองปี ตากลมโตดำขลับ เปี่ยมแววกลอกกลิ้งซุกซน
- เจ้เจ๊ผู้นี้รูปโฉมงดงาม ข้าพเจ้าชมชอบท่านยิ่ง "ท่านก็มีรูปโฉมงดงาม ข้าพเจ้ายิ่งชมชอบท่าน"
- อิ้วถั่งจือเห็นเท้าน้อยๆ ที่ขาวผ่องของนางนวลเนียนประดุจหยก นุ่มนิ่มดังแพรพรรณ หัวใจถึงกับเต้นถี่เร็ว จับจ้องมองเท้าของนางทั้งคู่ เห็นสีเนื้อบนหลังเท้าของนางคล้ายปร่งใส เผยเห็นเอ็นเขียวหลายเส้น ในใจคิดยื่นมือลูบคลำสักหลายครา
สรุปการเปรียบเทียบความงาม
- จงหลิงนั้นถูกบรรยายความงามเพียงแต่ในสายตาของต้วนอี้เท่านั้น ในเนื้อเรื่องทั่วไปไม่ค่อยมีพูดถึง อาจี่ เป็นที่ลุ่มหลงของ อิ้วถั่งจือ มาก แต่ในบทบรรยายตอนอื่นไม่ได้ถูกกล่างถึงความงามเป็นพิเศษ
- อาเพ็กกับอาจู ในความเห็นของต้วนอี้รู้สึกว่า งดงามทั้งคู่ แต่ไปในแนวทางที่ต่างกัน ดังนั้นถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ส่วนคังเหมี่ยน แม้จะอายุไม่น้อยแล้ว แต่เฉียงฟงเปรียบเทียบไว้ว่า งามไม่แพ้อาจู ดังนั้น 3 คนนี่ น่าจะถือว่างามในระดับเดียวกัน
- มู่หว่านชิง ดูน่าจะงามกว่า 5 คนที่ผ่านมา วัดจาก ที่ต้วนอี้เห็นว่า อาเพ็ก ยังงามไม่เท่า มู่หว่านชิง
- สุดท้ายคือ หวังอวี่เยี่ยน นางเอกของเรื่อง หวังอวี่เยี่ยน นั้นรูปร่างหน้าตาคล้ายกับรูปปั้นพี่นางฟ้า ถึงแม้ในเรื่องจะไม่ได้มีการพูดถึงความงามของหวังอวี่เยี่ยนมากมายเป็นพิเศษ แต่ต้วนอี้ก็ได้เปรียบเทียบความงามของพี่นางฟ้ากับสาวอื่นค่อนข้างชัดเจน เช่นตอนนี้เปรียบเทียบพี่นางฟ้าว่างามกว่า มู่หว่านชิง
จึงสรุปว่าในรุ่นเยาว์นี่ หวังอวี่เยี่ยน่าจะงดงามที่สุด มู่หว่านชิง รองลงมา อาเพ็ก อาจู และ คังเหมี่ยน พอๆกัน จงหลิง กับ อาจี่ น่าจะตามมาแบบติดๆ ส่วนในรุ่นใหญ่ บรรดาภรรยาของ ต้วนเจิ้งฉุน ก็ลวนแต่งดงาม ขอแยกกล่าวไว้ในอีกบทความ