MAHABHARATA
ตอนที่ 1 ต้นกำเนิด
ในกาลอินเดียโบราณ ยังมีพระราชาแห่งแคว้นกุรุ
กรุงหัสตินาปุระ ผู้ทรงรักการเสด็จประพาสล่าสัตว์ยิ่งนักนาม "ท้าวศานตนุ" พระราชาได้พบสตรีลึกลับนางหนึ่ง
สวยงามปานนางฟ้านางสวรรค์ พระองค์ทรงตกหลุมรักนางผู้นั้นโดยพลัน
พระราชาตรงเข้าไปตรัสสารภาพรัก
พร้อมทั้งขอให้นางมาอยู่กับพระองค์
สตรีนางนั้นตอบรับความรักของพระเจ้าศานตนุด้วยความยินดี แต่มีข้อแม้ว่าอย่างหนึ่งว่า
พระเจ้าศานตนุต้องตามใจนางในทุกเรื่องที่นางกระทำและไม่สอบถามเหตุผลใดๆ
ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไข นางจะจากไปและไม่กลับมาหาพระองค์อีกเลย ได้ยินดังนั้น
ท้าวศานตนุก็รีบตกปากรับคำ และพาตัวนางกลับกรุงหัสตินาปุระ สตรีลึกลับนางนี้นาม “คงคา”
วันเวลาผ่านไป พระเจ้าศานตนุก็ทรงได้รับแจ้งว่า
พระนางคงคาได้ตั้งครรภ์ พระองค์ทรงปิติยิ่งนักที่จะมีผู้สืบทอดราชสมบัติของพระองค์
ครั้นถึงเวลาครบกำหนดครรภ์
ท้าวศานตนุได้รับแจ้งว่าพระองค์ทรงได้ราชโอรส
พระองค์จึงรีบเสด็จไปยังที่ประทับของพระนางคงคา แต่กลับไม่พบพระนางและพระโอรส สอบถามได้ความว่า
พระนางคงคาได้อุ้มพระราชโอราชไปยังริมแม่น้ำคงคา พระองค์จึงเสด็จตามไปอย่างรีบด่วน
เมื่อไปถึงบริเวณริมแม่น้ำก็พบภาพเหตุการณ์ที่พระองค์แทบไม่เชื่อสายตา นั่นคือภาพพระนางคงคาอันเป็นที่รัก
ได้โยนพระราชโอรสแรกเกิด ทิ้งลงในแม่น้ำคงคาอันเชี่ยวกราด ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ท้าวศานตนุตกตะลึง เสียใจและสับสนกับเหตุการณ์
แต่พระองค์ทรงระงับความรู้สึกต่างๆและความสงสัยที่เกิดขึ้นไว้
เพราะพระองค์ระลึกถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับพระนางคงคา
พระองค์จึงไม่แม้แต่ปริปากเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แม้แต่เพียงน้อย
เรื่องน่าเศร้ายังดำเนินต่อไป
เมื่อพระนางคงคาตั้งครรภ์ และกำเนิดราชโอรสองค์ต่อมา
พระนางคงคาก็ยังคงนำพระโอรสไปทิ้งแม่น้ำคงคาเช่นเดิม
เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมทั้งสิ้น7 ครั้งด้วยกัน พระราชาศานตนุ
ได้แต่ทรงกล้ำกลืนฝืนทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยไม่ปริปากแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อพระนางคงคาได้คลอดพระโอรสองค์ที่ 8
พระราชาศานตนุซึ่งเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและโศกเศร้าพระองค์เลือกที่ละเมิดสัญญาที่เคยให้ไว้
ตรงเข้าไปขอร้องให้พระนางคงคาหยุดกระทำในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวตำหนิอย่างรุนแรง
ต่อความโหดเหี้ยมที่พระนางก่อขึ้น เรื่องกลับพลิกความคาดหมาย
เพราะแทนที่พระนางคงคาจะโกรธแต่กลายเป็นว่า พระนางยิ้มอย่างมีความสุขระคนความเศร้า
และตรัสกับพระราชาศานตนุว่า พระองค์ผู้เป็นที่รักยิ่ง
บัดนี้พระองค์ได้ละเมิดข้อสัญญาที่เคยให้ไว้ นางจะต้องลาจากพระองค์ไป พระราชาศานตนุ
เมื่อได้รับฟังคำพูดเช่นนั้น พระองค์ก็ได้แต่ตกตะลึงและเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
พระองค์ตรัสขอร้องไม่ให้พระนางคงคาจากพระองค์ไป
พระนางคงคา
จึงได้เล่าความจริงให้พระราชศานตนุฟังว่า ในอดีตชาติ พระนาง คือ เจ้าแม่คงคา
อยู่บนสวรรค์ ส่วนท้าวศานตนุ ในชาติที่แล้วคือ พระราชานามว่า มหาอภิศักดิ์ เป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ได้ไปเสวยผลบุญบนสวรรค์ ในครั้งหนึ่ง ระหว่างการชุมนุมเทวดา
โดยมีพระพรหมเป็นประธาน ในระหว่างการประชุมได้เกิดพายุรุนแรงจน
เสื้อผ้าอาภารณ์ของเจ้าแม่คงคาหลุดปลิว ท้าวศานตนุในเวลานั้น
เผลอไผลให้ตัณหาราคะครอบงำ ได้จ้องมองไปที่ทรวงอกของเจ้าแม่คงคาอย่างตั้งใจ
ส่วนเจ้าแม่คงคาเองก็เกิดความรู้สึกเสน่หากับท้าวศานตนุเช่นกัน ผลของการกระทำนี้
ทำให้ทั้งคู่โดนสาปให้ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ชดใช้ผลกรรมที่เกิดขึ้น
จึงเป็นสาเหตุในความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพระองค์และนาง ก่อนที่พระนางคงคาจะจากไป
ได้กล่าวกับท้าวศานตนุว่า สำหรับลูกของเราคนนี้ จะมีชีวิตต่อไป
นางจะเลี้ยงดูด้วยตนเองและส่งคืนให้ท้าวศานตนุเมื่อเวลาอันเหมาะสมมาถึง ลูกคนนี้จะมีชื่อว่า
“เทวพรต” หรืออีกชื่อหนึ่ง “คางเคยะ” เมื่อกล่าวจบ
พระนางคงคาและลูกก็หายไปในแม่น้ำคงคาในบัดดล
via jofromhell
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น